[SOFTWARE] 3D MARK 11 V.1.0 PROFESSIONAL+ KEY [2011|ENG|FULL|MEDIAFIRE] 300 MB
เป็นการนำเสนอในส่วนของตัว Software จึงทำให้เราไม่อาจที่จะมีตัว Hardware มาให้ได้ชมได้ แม้ว่ามันจะมีเวอร์ชันที่เป็นแผ่น DVD หร้อมแพ็กเกจสวยงามจำหน่ายก็ตาม แต่ก็คงจะหาชมได้ยากเพราะทาง Futuremark ก็มีให้ได้ Download ทั้งในแบบฟรีและต้องชำระเงิน เอาล่ะๆ เราเข้ามาที่ประเด็นของวันนี้กันเลยดีกว่านะครับ ซึ่งตามที่ทราบกันแล้วว่าเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมาคือวันแรกของการเปิดให้ Download 3DMARK 11 หลายๆท่านในที่นี้ก็น่าจะได้ลองทดสอบกันบ้างแล้ว ส่วนใครที่ยังไม่ทราบยังไม่ได้ทดสอบก็ลองมาติดตามชมกันดุว่ามันจะมีอะไรใหม่ๆมาให้เราได้นั่งมองนั่งชมกันบ้าง ซึ่งการมาถึงของเจ้า 3DMARK 11 นั้นตามที่ได้เกริ่นไปว่าใช้ตัวเลข " 11 " ในการระบุรุ่นหรือเวอร์ชัน อันที่จริงแล้วมันไม่ได้หมายถึงปี คศ. ตามที่เคยเป็นมาเพราะหากว่าทาง Futuremark ตั้งใจที่จะใช้ปี คศ. ก็คงไม่รีบปล่อยออกมา ซึ่งความหมายของเลข 11 ตรงนี้นั้นจริงแล้วจะหมายถึง 3DMark ที่จะรองรับการทดสอบร่วมกับ DirectX 11 อย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Tessellation, Deep of field รวมถึง Volumetric lighting/Shadows, Volumetric lighting illuminates ที่จะเข้ามาช่วยให้ภาพมีความสวยงามในเรื่องของแสงเงา สวยสมจริงยิ่งขึ้นและสำหรับ 3DMARK 11 ตัวนี้เราก็ต้องใช้ระยะเวลารอคอยมายาวนานร่วม 3 ปีเต็มหลังจากที่ทาง Futuremark ได้ปล่อย 3DMark Vantage ออกมาในปี 2008 ซึ่งในเวอร์ชันดังกล่าวนี้จะรองรับได้เพียงการทดสอบในระดับ DirectX 10 เท่านั้น แต่เมื่อมองถึงตลาดของกราฟิกการ์ดในเวลานี้แล้วนั้น มันเป็นเวลาของยุคสมัย DirectX 11 ไปเสียแล้วนั่นเอง
Basic Tap
ในที่นี้สำหรับการนำเสนอจากทางเรานั้นเรามี Key ในเวอร์ชัน Profressional และเมื่อกรอกลงไปพร้อมยืนยันเสร็จสิ้น หน้าตาของตัว 3DMARK 11 ที่ปรากฏขึ้นมาก็จะเป็นไปดังภาพที่เห็น โดยมันจะมีแทปให้เราสามารถเลือกหัวข้อต่างๆได้ 5 หัวข้อด้วยกันได้แก่ Basic, Advance, Profressional, Results และ Help โดยในหัวข้อแรกหัวข้อ Basic นั้นหากไม่มี Key ในเวอร์ชัน Advance ขึ้นไป เราจะไม่สามารถเลือกค่าใดๆที่ปรากฏได้เลย จะกระทำได้ก็เพียงกด Run 3DMARK 11 แต่หากมี Key นั้นเราจะสามารถเลือกทดสอบในโหมดอื่นๆด้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น E, P หรือ X รวมทั้งการทดสอบก็สามารถเลือกสองรูปแบบคือ จะเลือกชมเต็มการทดสอบในหัวข้อ Full 3DMARK 11 Experience หรือ Benchmark only ในหัวข้อหลังนี้จะเป็นการทดสอบเท่าที่คะแนนออก จะทำการตัดฉาก Demo ในสองฉากแรกออกไปเพื่อลดระยะเวลาในการทดสอบให้สั้นลงนั่นเอง
Advanced Tap
ในหน้าต่อมาสำหรับหัวข้อ Advance ก็จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าหากเรามี Key Advance Edition สิ่งที่เราจะสามารถปรับแต่งได้นั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งทั้งหมดโดยรวมก็ถือว่าปรับแต่งได้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการรีดคะแนน ไม่ว่าจะเป็นระดับของความละเอียด รายละเอียดความหนักเบาของจุดต่างๆเช่น Shadows หรือค่า Tessellation ว่าจะให้อยุ่ในระดับใด แต่หากมีการปรับตั้งในแบบ Manual นั้นผลคะแนนที่ออกมาจะไม่เป็นที่ยอมรับในการจัดอันดับของการทดสอบ
Professional Tap
สำหรับหัวข้อ Professional นั้นจะมีให้ปรับแต่งไม่มากนัก ซึ่งจะเป็นในส่วนของ Image Quality ที่ได้กล่าวไปแล้ว ซึ่งจะเป็นการปรับแต่งในแบบเฉพาะสำหรับการทดสอบ เช่นเราสามารถล็อคระดับของอัตราเฟรมเรตได้ หรือเลือกรูปแบบของการ render ภาพได้
Results Tap
หน้าแทปของผลคะแนนนั้นทาง Futuremark ได้เตรียมหนวยของคะแนนที่จะได้มาจำนวน 5 หลักในระดับเบื้องต้น ซึ่งยังไม่ยืนยันว่าคะแนนสูงสุดของการทดสอบนั้นจะจำกัดอยู่ที่เพียง 5 หลักหรือไม่ (99999) แต่คะแนนที่ออกมานั้นครั้งนี้จะมาเพียงคะแนนเดียวโดดๆสำหรับคะแนนรวมทั้งหมด และหากต้องการดุรายละเอียดของคะแนนในแต่ละฉากการทดสอบเราจะต้อง Submit ผลขึ้นไปยังหน้าเวปของ Futuremark เราจึงจะสามารถชมผลคะแนนของแตละฉากแต่ละการทดสอบได้
Help Tap
หน้าสุดท้ายนี้ก็คงไม่มีอะไรสลักสำคัญมากนักหรือไม่มีผลต่อเรื่องของผลคะแนนแต่ประการใด เป็นเพียงหน้าที่ระบุหรือแสดงรายละเอียดเวอร์ชันของตัวโปรแกรมที่ใช้ว่าอยุ่ในเวอร์ชันใด
3DMARK 11 editions
Benchmark Features
- Unlimited run ซึ่งทาง Futuremark ไม่มีการกำหนดการใช้งานในการทดสอบ เราสามารถทดสอบได้ไม่จำกัดจำนวนในทุกๆเวอร์ชันไม่ว่าจะเป็นตัว Basic Edition ก็ตามที
- Offline Results สำหรับการเก็บผลคะแนนหรือชมผลคะแนนของตนเองในแบบ offline นั้นจะสามารถกระทำได้ในเวอร์ชัน Advance ขึ้นไปเท่านั้น แต่สำหรับในเวอร์ชัน Basic นั้นก้สามารถสร้าง User Account ของตนเองในเวปไซด์ Futur emark ได้โดยไม่มีคาใช้จ่ายใดๆ
- Demo Looping ซึ่งในเวอร์ชัน 11 นี้ Demo Loop ได้กลับมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากหายไปบนเวอร์ชัน Vantage โดยออกแบบมาสำหรับใช้ในการเปิดโชว์ตามงานแสดงต่างๆหรือเปิดรับชมเพื่อความบันเทิง และหากใครที่ใช้เวอร์ชัน ProfressionalEdition นั้น Logo ผู้สนับสนุนที่ปรากฏอยุ่ในฉากต่างๆจะถูกเปลี่ยนให้เป็นโลโกของ Futuremark แทน
- Benchmark looping เป็นการออกแบบมาเพื่อทดสอบในแบบวนไปวนมา สามารถกำหนดจำนวนรอบในการทดสอบได้ ทั้งนี้ก็เพื่อใช้ในการทดสอบหรือตรวจสอบหาความมีเสถียรภาพของกราฟิกการ์ดหลังจากได้มีการโอเวอร์คล๊อกไปนั่นเอง
- Image quality tool สำหรับฟังก์ชันดังกล่าวนี้เป็นฟังก์ชันที่จะพบได้บนตัว Profressional Edition เท่านั้น ซึ่งเราจะสามารถปรับเปลี่ยนคุณภาพของภาพในการเปิด Demo ให้เหมาะสมกับ Hardware ที่มีอยู่เพื่อให้ภาพที่ปรากฏออกมามีความสวยงามที่สุดเท่าที่ความสามารถของ Hardware จะกระทำได้
- Command Line automation เป็นฟังก์ชันใหม่ล่าสุดที่เริ่มมีบน 3DMARK 11 เท่านั้น ซึ่งเราจะสามารถกำหนดหรือทำการแก้ไขการ Benchmark ได้หรือกำหนดสคริปเพิ่มลงไปเพื่อให้ทำงานในแบบอัตโนมัติตามชุดคำสั่งที่เราได้เพิ่มลงไป ซึ่งจะมีปรากฏอยุ่บนเวอร์ชัน Profressional เท่านั้นเช่นเดียวกัน
- Offline Results สำหรับการเก็บผลคะแนนหรือชมผลคะแนนของตนเองในแบบ offline นั้นจะสามารถกระทำได้ในเวอร์ชัน Advance ขึ้นไปเท่านั้น แต่สำหรับในเวอร์ชัน Basic นั้นก้สามารถสร้าง User Account ของตนเองในเวปไซด์ Futur emark ได้โดยไม่มีคาใช้จ่ายใดๆ
- Demo Looping ซึ่งในเวอร์ชัน 11 นี้ Demo Loop ได้กลับมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากหายไปบนเวอร์ชัน Vantage โดยออกแบบมาสำหรับใช้ในการเปิดโชว์ตามงานแสดงต่างๆหรือเปิดรับชมเพื่อความบันเทิง และหากใครที่ใช้เวอร์ชัน ProfressionalEdition นั้น Logo ผู้สนับสนุนที่ปรากฏอยุ่ในฉากต่างๆจะถูกเปลี่ยนให้เป็นโลโกของ Futuremark แทน
- Benchmark looping เป็นการออกแบบมาเพื่อทดสอบในแบบวนไปวนมา สามารถกำหนดจำนวนรอบในการทดสอบได้ ทั้งนี้ก็เพื่อใช้ในการทดสอบหรือตรวจสอบหาความมีเสถียรภาพของกราฟิกการ์ดหลังจากได้มีการโอเวอร์คล๊อกไปนั่นเอง
- Image quality tool สำหรับฟังก์ชันดังกล่าวนี้เป็นฟังก์ชันที่จะพบได้บนตัว Profressional Edition เท่านั้น ซึ่งเราจะสามารถปรับเปลี่ยนคุณภาพของภาพในการเปิด Demo ให้เหมาะสมกับ Hardware ที่มีอยู่เพื่อให้ภาพที่ปรากฏออกมามีความสวยงามที่สุดเท่าที่ความสามารถของ Hardware จะกระทำได้
- Command Line automation เป็นฟังก์ชันใหม่ล่าสุดที่เริ่มมีบน 3DMARK 11 เท่านั้น ซึ่งเราจะสามารถกำหนดหรือทำการแก้ไขการ Benchmark ได้หรือกำหนดสคริปเพิ่มลงไปเพื่อให้ทำงานในแบบอัตโนมัติตามชุดคำสั่งที่เราได้เพิ่มลงไป ซึ่งจะมีปรากฏอยุ่บนเวอร์ชัน Profressional เท่านั้นเช่นเดียวกัน
Minimum System requirements
OS : Microsoft Windows Vista or Windows 7
Processor (CPU) : 1.8GHz Dual-core intel or AMD CPU
Memory : 1GB of System Memory
Graphics : DirectX 11 compatible graphics card
Harddisk : 1.5GB free space
Audio : Windows Vista/Windows 7 compatible sound card
OS : Microsoft Windows Vista or Windows 7
Processor (CPU) : 1.8GHz Dual-core intel or AMD CPU
Memory : 1GB of System Memory
Graphics : DirectX 11 compatible graphics card
Harddisk : 1.5GB free space
Audio : Windows Vista/Windows 7 compatible sound card
MediaFire 4 Part [Part 1-3 98 MB - Part 4 294 KB]
KEY : 3D11-PRO-R9V5L-P649A-AYZ6Y-2QRVK-6F5HZ
ไฟล์ไหนเสีย กด Alt + R ซ่อมไฟล์ได้ครับ
Recovery Record 5%
วิธีติดตั้ง
1.โหลดมาให้ครบ 4 Part
2.แตกไฟล์
3.ติดตั้งตามปกติ
4.ใช้งานได้เลยครับ
Recovery Record 5%
วิธีติดตั้ง
1.โหลดมาให้ครบ 4 Part
2.แตกไฟล์
3.ติดตั้งตามปกติ
4.ใช้งานได้เลยครับ
3DMARK11V1.00.BY.COPTER